วันอังคารที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2559

น้ำพริกเผาไทย ตรา ลูกสาวอกตัญญู






ผจก.ออนไลน์


มีคนบอกว่า ถ้าลูกสาวคนโตแน่จริง ก็เปลี่ยนยี่ห้อไปเลย อย่ามาใช้ชื่อแม่หากิน

แล้วถ้าให้ดี เงินทองของบริษัทที่ลูกสาวคนโตดูแลอยู่คนเดียวมา 30 ปี มีทรัพย์สมบัติเป็นพันล้านบาทแล้วมั้ง แน่จริงก็ไปตั้งโรงงานใหม่ ใช้ชื่อยี่ห้อน้ำพริกของตัวเองไปเลย

ส่วนโรงงานเก่าก็คืนให้แม่บังเกิดเกล้าซะ 






ผจก.ตูน


ต่อให้ทำดีต่อคนทั้งโลก แต่ทำไม่ดีต่อบุพการีตนเอง ก็ถือว่า เลว
ต่อให้เป็นเจ้านายที่ดีของลูกน้อง แต่เป็นลูกที่ไม่ดีของพ่อแม่ ก็ถือว่า เลว

เข้าใจไหมศิริพร










เพราะแม่ผู้มีความรู้น้อย ตำน้ำพริกหาเงินอย่างลำบากเพื่อเลี้ยงลูก 4 คน

ต่อมากิจการน้ำพริกเจริญรุ่งเรือง แม่กับพ่อเลยตั้งโรงงานผลิตน้ำพริกเผา แต่เพราะแม่ความรู้น้อยอ่านหนังสือไม่ค่อยออก เลยให้ลูกสาวคนโตบรรลุนิติภาวะแล้ว ถือหุ้นโรงงานร่วมกับผู้เป็นพ่อ ส่วนแม่ถือหุ้นน้อยกว่า

แต่พอพ่อตาย ลูกสาวคนโตหลอกให้แม่เซ็นชื่อเพื่อไม่ให้รับมรดกของสามี แต่ให้ลูกสาวเป็นผู้รับมรดกของพ่อแทน สรุปลูกสาวคนโตฮุบกิจการของพ่อและแม่ไว้หมด

สุดท้ายโรงงานน้ำพริกทั้งหมดตกเป็นของลูกสาวและลูกเขย ส่วนแม่และน้อง ๆ กลับไม่เหลือสมบัติอะไรเลยในโรงงานน้ำพริก ตราลูกสาวอกตัญญู






ท่านชัยราชวัตร


คดีลูกชายกระทิงแดง ชนตำรวจตาย เจอข้อหาเมาหลังขับ เพราะพอชนตำรวจตายเสร็จ ก็รีบขับรถหนีเข้าบ้าน แล้วไปกินเหล้าย้อมใจ (แม่งมีที่ไหน ความผิดเมาหลังขับ ตำรวจเจตนาช่วยเหลือรึเปล่า ยังเป็นที่กังขา)

ส่วนคดีที่หมดอายุความไปแล้ว คือ ข้อหาขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด บลา บลา




คมชัดลึกตูน


เป้าหมายมีไว้พุ่งชนแล้วหนี

วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2559

การแข่งขันความโง่ระหว่าง เต่าพม่า กับ กระต่ายไทย





ผจก.ตูน














































นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ไม่ว่าประเทศจะปกครองด้วยระบอบอะไรก็ตาม แต่ถ้าผู้มีอำนาจไม่ได้ทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ระบอบนั้น ๆ ก็เลวไม่ต่างกันหรอก  คล้าย ๆ กับการ์ตูนรูปข้างล่างนี้

ผจก.ตูน


วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2559

การ์ตูน มโนประชาธิปไตยของพม่า และ อย่าถือสาคนบ้าเลย








ท่านชัยราชวัตร










ช่วงหลายวันก่อน มีการแชร์รูปการ์ตูนที่เขาว่าเป็นของนักศึกษาพม่า วาดขึ้นเพื่อเสียดสีประชาธิปไตยของไทย

ทำนองว่า ประชาธิปไตยไทยเปรียบเสมือนกระต่าย ในขณะที่ประชาธิปไตยพม่าเปรียบเสมือนเต่า แต่กระต่ายไทยกลับนอนหลับยาว

การ์ตูนรูปนี้ พวกคลั่งประชาธิปไตยแบบควาย ๆ ก็กระดี๊กระด๊ากันใหญ่ รีบเอามาใช้เสียดสี

แต่ผมขอบอกว่า การ์ตูนการเมืองของนักศึกษาพม่า มันเป็นแค่การมโนฝันหวานของนักศึกษาพม่าเท่านั้น

เรื่องแบบนี้มันต้องดูกันยาว ๆ








ใช่ครับ ความเป็นจริงคือ รูปนี้ต่างหาก

กระต่ายพม่า กำลังนอนฝันถึงประชาธิปไตยที่แท้จริง ฝันหวานจนคิดว่าเป็นเรื่องจริง กะอีแค่ นางซูจี เอาคนสนิทมาเป็นประธานาธิบดีแค่เนี้ย แล้วนางซูจีก็เชิดประธานาธิบดีอยู่หลังม่าน พวกนักศึกษาพม่าก็มโนซะว่า ได้ประชาธิปไตยเต็มใบแล้ว

ขอเตือนพม่าด้วยความหวังดี ระวังระบอบนายทุนฮุบทรัพยากรพม่าจนเกลี้ยงแบบไทยก็แล้วกัน นี่แหละผลพวงประชาธิปไตย แบบควาย ๆ




ส่วนไทยเรานั้น ไม่เคยมีระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงหรอกครับ เพราะตั้งแต่ 2475 เป็นต้นมา ไทยเรามีแต่ระบอบเลือกตั้งเท่านั้น

ส่วนรัฐบาล คสช. จะนำพาชาติไทยให้ไปสู้ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงได้หรือไม่ ผมไม่ค่อยหวังเท่าไหร่นัก เพราะตราบใดที่คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจว่า ประชาธิปไตยที่แท้จริงคืออะไร

สุดท้ายมันก็ได้อีหรอบเดิม ๆ คือ ระบอบเลือกตั้งของพวกนักเลือกตั้งเท่าน้้น


ล่าสุดมีผู้รู้ ได้บอกผม มาว่า การ์ตูนรูปนี้ไม่ใช่การ์ตูนของพม่า แต่เป็นการ์ตูนของคนไทย โดยการ์ตูนนิสต์มีชื่อว่า หมอ นามปากกาคือ MOR เป็นการ์ตูนนิสต์ประจำบางกอกโพสต์ครับ สังเกตได้ในการ์ตูนมีลายเซ็นอยู่

ผมจึงต้องขออภัย ที่กล่าวหา นศ.พม่า ผิดไปครับ





astv toon

นี่ก็จอมมโน ของไทย วัน ๆ แกคงเหงามาก จนเพี้ยน

แกคงลืมวีรเวรวีรกรรมสมัยวิกฤติต้มยำกุ้งที่แกทำเจ๊งมากับมือแล้วแหง ๆ 555








เดลินิวส์ตูน

อย่าถือคนบ้า เลยครับ







แนวหน้าตูน


ลุงจิ๋วไม่ใช่แกไม่กล้าโดดแม่น้ำโขงนะครับ

แต่แกลืมไปแล้วต่างหากว่า แกเคยพูดอะไรไว้ 5555







ท่านชัยราชวัตร


ความเหลื่อมล้ำของสังคมไทยที่แท้จริงก็คือ ผู้บังคับใช้กฎหมายเป็นพวก 2 มาตรฐาน คือ ชอบเอื้อประโยชน์ให้คนรวย เมตตาต่อคนรวยเป็นพิเศษ

แต่ผู้บังคับใช้กฎหมายกลับเล่นงานคนจนอย่างไม่ปราณี






ท่านชัยราชวัตร

อีเกียว นี่ก็จอมมโน แถมตอแหลสุด ๆ อีกคน






ท่านชัยราชวัตร

น้ำแล้งจัดในปีนี้ แต่เชื่อเถอะ ยังมีคนไทยที่ไม่เคยขาดแคลนน้ำประปา ก็ยังจะเล่นสนุกสนานในสงกรานต์ต่อไป

อย่างที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อปีก่อนเกิดแห้งแล้งจัดมาก 2 ปีติดต่อกัน ทางรัฐเขาถึงกับออกกฎหมายห้ามคนล้างรถด้วยสายยางฉีด และห้ามรดน้ำสนามหญ้าและต้นไม้ด้วยสายยางฉีด ใครฝ่าฝืนมีโทษปรับเงินอย่างแพง

นั่นแหละ ตัวอย่างของประเทศเสรีประชาธิปไตยที่แท้จริง

แล้วคนไทยล่ะ กระสันอยากได้ประชาธิปไตย แต่เคยมีจิตสำนักประชาธิปไตยที่แท้จริงรึยัง ถุยส์ !!







เดลินิวส์ตูน (ดัดแปลง)







ท่านชัยราชวัตร

แหม ๆ ท่านชัยราชวัตร ชี้โพรงให้นายทวี ไปยิงหมาที่ดูไบ ซะแล้ว 555

คลิกอ่าน ขออภัย ทักษิณไม่ใช่หมานะครับ

วันจันทร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2559

ถาม ตาช่วง วัดปากน้ำ ออกบวชเพื่ออะไร ?






ผู้จัดกวนตูน


เมื่อ 2500 กว่าปีที่แล้ว ณ กรุงกบิลพัสดุ์ มีองค์รัชทายาท พระนามว่า เจ้าชายสิทธัตถะ










เจ้าชายทรงเบื่อหน่าย ในความสุขจอมปลอมที่พระราชบิดาทรงนำมาให้พระองค์เสพสุข









ทรงไม่สนพระทัยในราชสมบัติที่มากมายก่ายกอง เพราะสิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง ไม่ใช่สุขที่ยั่งยืน









แล้วเจ้าชายก็ทรงตัดสินใจสละทิ้งความสุขจอมปลอมเหล่านั้น เพื่อไปแสวงหาความสุขที่แท้จริงด้วยการออกผนวช










แล้วเจ้าชายสิทธัตถะ ทรงค้นพบทางออกแห่งทุกข์ ทรงสำเร็จเป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

และทรงได้ทิ้งพระธรรมคำสอนเพื่อความหลุดพ้นแห่งทุกข์ไว้มาจนถึงวันนี้








จนเมื่อเวลาผ่านไปกว่า 2,500 ปี


นายช่วง คนปากน้ำ ได้พบทางรอดจากความอดอยากของตัวเองเช่นกัน นั่นคือการบวชเป็นพระ









แหม เรานี่พอห่มเหลืองแล้ว ดูน่านับถือขึ้นเยอะจริง ๆ เลยว่ะ

แล้วตาช่วงก็เดินตามรอยพระพุทธบาท เพื่อหวังพ้นจากความทุกข์เช่นกัน







แต่ !! ในระหว่างทางที่ตาช่วงเดินตามรอยพระบาทของพระพุทธเจ้านั้น ตาช่วงก็เกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมา

ว่าแล้ว ตาช่วงห่มเหลือง ก็ค้นพบทางออกแห่งทุกข์จากความยากจน นั่นคือ

หนทางแห่งความร่ำรวยด้วยลาภยศสักการะ









เจ้าชายสิทธัตถะ ทรงละทิ้งราชสมบัติ เพื่อออกบวช

แต่ตาช่วง คนปากน้ำ ออกบวชเพื่อแสวงหาทรัพย์สมบัติ

และเพื่อซาบซึ้งในรถพระทำ !!!




เพจเผาหัว

วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2559

สมเด็จช่วง โปรดสัตว์ แต่ได้บาป






ท่านชัยราชวัตร

ตรรกะวิบัติของตาช่วง แค่คืนรถเถื่อนให้ผู้บริจาค ก็ถือว่าตัวเองพ้นผิด

ส่วนผู้บริจาครถคือ ตาแป๊ะ เลขาตาช่วง ได้รับการโอนลอยรถจากตาช่วงมาแล้ว ตาแป๊ะก็รีบโยนขี้ให้อู่รับจ้างประกอบรถยนต์ทันที ว่า คือ ผู้กระทำผิดที่ขายรถเถื่อนให้ตาแป๊ะ เฮ่อ...

ทั้ง ๆ ที่ DSI เคยแถลงว่า มึงนั่นแหละไอ้แป๊ะ ที่นำเข้าชิ้นส่วนและจัดการเองทุกขั้นตอนอย่างผิดกฎหมาย






astv toon

อู่วิชาญ โดยนายวิชาญ (ไม่ใช่วิชา) กำลังกลายเป็นแพะรับบาป ที่ตาช่วงและตาแป๊ะ พยายามโยนความผิดให้

ตาแป๊ะ และตาช่วง มันคงคิดว่า DSI โง่แหง ๆ ถึงกล้าหน้าด้านใช้มุขนี้

ตาช่วง โปรด แพะรับบาป






ท่านชัยราชวัตร









เอเอสทีวีตูน








astv toon

โห ไอ้พวกข้างหลังตาช่วงแต่ละตัว หน้าตาแม่งโหดเลวทรามสุด ๆ

โดยเฉพาะไอ้ประสารห่มเหลืองน่ะ ดูหน้ามันสิ โคตรน่ากลัวเลย







แนวหน้าตูน








astv ตูน











วันจันทร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2559

นิทานอีศพ เรื่อง ไอ้ช่วงคาบรถเบนซ์







ผู้จัดกวนตูน

กาลครั้งหนึ่งไม่นานเท่าไหร่

มีหมาวัดตัวหนึ่ง ชื่อ ไอ้ช่วง มันไปเจอของเล่นน่าสะสมมีชื่อว่า รถเบนซ์โบราณเถื่อน





ไอ้ช่วง มันกำลังเล่นสนุกอย่างเพลิดเพลิน ที่ได้รถเบนซ์โบราณคันนี้มาครอบครอง






ไอ้ช่วง จึงเป็นหมาที่มีความสุขสนุกสนานกับการเล่นรถเบนซ์โบราณหรูทั้งวัน






ตกเย็น ไอ้ช่วง ก็เดินกลับวัดกลางน้ำ พร้อมกับคาบรถเบนซ์คันโปรดเดินข้ามสะพาน แต่ระหว่างที่ไอ้ช่วงกำลังเดินข้ามสะพาน ทันใดนั้น !!






ไอ้ช่วง เหลือบไปเห็นบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ในน้ำที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะมันคือ






มันคือ ตำแหน่งลาภยศสรรเสริญ

ไอ้ช่วง เห็นดังนั้น มันก็มโนทันทีว่า ถ้ามันคาบตำแหน่งลาภยศสรรเสริญในน้ำนั้นขึ้นมาได้ มันคงจะมีความสุขมากกว่าเล่นรถเบนซ์แน่นอน

แต่เอ..?  ปากไอ้ช่วงก็กำลังคาบรถเบนซ์อยู่ แล้วมันจะลงไปคาบตำแหน่งลาภยศสรรเสริญในน้ำได้ยังไงล่ะ ??









ทันใดนั้นเอง ไอ้ช่วงก็คิดได้ ไอ้ช่วงก็เลยตัดสินใจคายรถเบนซ์ทิ้งลงน้ำไป เพื่อหวังจะลงไปคาบตำแหน่งลาภยศสรรเสริญในน้ำนั้นขึ้นมาแทน







แต่แล้ว......

เหลือแค่เงาของไอ้ช่วงเท่านั้น
เพราะทั้งรถเบนซ์หรือลาภยศสรรเสริญก็อันตรธานหายไปหมด เหตุเพราะความโลภและความโง่ของไอ้ช่วงเอง










มติ มส. ในวันที่ 5 มกราคม 59 ผิดขั้นตอนกฎหมายอย่างไร

เลขาฯ ผู้ตรวจการแผ่นดินได้อธิบายแจกแจงตามกฎหมาย พ.ร.บ.สงฆ์แก้ไข 2535 ตามมาตรา 7 นั้น ขยายความตามขั้นตอนจะได้ตามนี้คือ

สำนักพระพุทธศาสนา จะต้องนำรายชื่อเรียงลำดับความอาวุโสของสมเด็จพระราชาคณะที่มีอยู่ทั้งหมด เสนอมาให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาก่อน แล้ว นายกรัฐมนตรีจึงจะนำชื่อของสมเด็จพระราชาคณะที่มีอาวุโสสูงสุด เสนอให้ มส. รับรองอีกครั้ง ก่อนจะขึ้นทูลเกล้าฯ

สรุปคือ เรื่องชื่อสมเด็จพระราชาคณะที่อาวุโสสูงสุด ต้องเริ่มที่นายกรัฐมนตรีเสนอไปให้ มส. มีมติรับรอง แล้วนายกฯ ถึงจะนำชื่อขึ้นทูลเกล้า

ไม่ใช่ มส. เสนอชื่อกันเอง แล้วส่งมาให้นายกรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯ แบบนี้มันผิดขั้นตอนตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย

เรื่องง่าย ๆ แค่นี้ ตาประสาร ห่มเหลือง ยังโง่ อ่านไม่แตก แล้วจะมาห้ามรัฐบาลไม่ให้ยุ่งกับตำแหน่งทางโลกของพระสงฆฺไม่ได้ เพราะคนทูลเกล้าก็คือ นายกรัฐมนตรีที่จะเป็นผู้สนองรับพระราชโองการ

ตาประสาร ถ้าแน่จริง ก็ทูลเกล้าเองสิ ทำได้ไหม ? มันก็ไม่ได้ จริงไหม ?

และที่สำคัญใน พ.ร.บ.สงฆ์ ยังได้กำหนดว่า หากสมเด็จพระราชาคณะที่มีอาวุโสสูงสุด ไม่สามารถปฏิบัติภารกิจเป็นสมเด็จพระสังฆราชได้ ไม่ว่าจะเหตุผลใดก็ตาม ก็ให้นายกรัฐมนตรีเสนอชื่อสมเด็จพระราชาคณะที่อาวุโสสูงสุดรองลงมา ให้ มส.มีมติรับรองแทน / ใหม่เมืองเอก